กฎหมายไม่ได้ห้ามไม่ให้สามีภริยากู้ยืมเงินกัน ดังนั้นสามีภริยาก็อาจมีหนี้สินต่อกันได้ กฎหมายบังคับไว้ว่า สิทธิเรียกร้องหรือหนี้สินใดที่มีอยู่ต่อกันนั้นจะขาดอายุความตามกฎหมายก่อนหรือภายใน 1 ปี นับแต่วันที่การสมรสสิ้นสุดลง ให้อายุความนั้นยังไม่ครบกำหนดจนกว่าจะครบ 1 ปี นับแต่วันที่การสมรสสิ้นสุดลง กฎหมายไม่ประสงค์ให้สามีภริยาต้องมาฟ้องร้องกันระหว่างที่เป็นสามีภริยากันอยู่ อันจะทำให้ครอบครัวไม่ปกติสุขได้ กฎหมายจึงได้ขยายอายุความให้ในระหว่างที่เป็นสามีภริยากัน หนี้สินระหว่างสามีภริยาที่มีต่อกันนั้นจะไม่ขาดอายุความแต่ จะขาดอายุความก็ต่อเมื่อครบหนึ่งปีนับแต่วันที่การสมรสสิ้นสุดลง หมายความว่าหนี้กู้ยืมเงิน ซึ่งมีอายุความ 10 ปี หากสามีภริยากู้ยืมเงินกัน จะบังคับตามกฎหมายอายุความ 10 ปีไม่ได้ ระหว่างที่ยังเป็นสามีภริยากัน แม้หนี้กู้ยืมเงินจะเกินกว่า 10 ปีก็ตาม หนี้ยังไม่ขาดอายุความ หนี้จะครบกำหนดอายุความหลังจากสิ้นสุดการสมรสแล้ว ครบ 1 ปี ดังมาตรา 193/22 บัญญัติไว้ว่า
มาตรา 193/22 อายุความสิทธิเรียกร้องระหว่างสามีภริยา ถ้าจะครบกำหนดก่อนหรือภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่การสมรสสิ้นสุดลง อายุความนั้นยังไม่ครบกำหนดจนกว่าจะครบหนึ่งปีนับแต่วันที่การสมรสสิ้นสุดลง             

ในเรื่องอายุความสัญญากู้ยืมเงินนั้นกฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะจึงต้องใช้อายุความตามมาตรา 193/30 บัญญัติว่า “ อายุความนั้น ถ้าประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นมิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะ ให้มีกำหนดสิบปี
กรณีที่กฎหมายไม่ได้กำหนดอายุความไว้ ต้องมีกำหนดอายุความ 10ปี เช่น หนี้กู้ยืมเงิน