ReadyPlanet.com


ฟ้องหย่าคะ


 ดิฉันกับสามี มีลูกด้วยกัน 2 คนแต่แยกกันอยู่ดิฉันอาศัยอยู่กับ พ่อแม่พี่น้อง ครอบครัวดิฉัน ส่วนสามีก็อาศัยอยู่กับพ่อแม่พี่น้องครอบครัวเขา ดิฉันไม่ได้ทำงาน สามีเพิ่งเรียนจบแล้วทำงานได้ประมาณ 1 ปี มีการส่งเงินให้ประมานสามเดือนครั้ง ครั้งละประมาณ 2 พันบาท แล้วก็ไม่ค่อยมาพบลูกหรือดูแลโดยอ้างว่า ติดงานทำงานเหนื่อย การเลี้ยงดูลูกทั้งสองตั้งแต่แรกเกิดมาจากครอบครัวดิฉัน พ่อของดิฉันเป็นคนออกค่าใช้จ่างเลี้ยงดูเรื่องค่ากินค่าเล่าเรียน พอตอนหลังดิฉันจับได้ว่าสามี มีผู้หญิงอื่น แต่ไม่ยอมรับ จนตอนหลังดิฉันไม่อยากฟังขอแก้ตัวแล้ว จึงพูดเรื่องขอหย่าอีกเรื่อยๆ กอปรกับ เจอหลักฐานที่สามียุ่งกับหญิงอื่น จึงยอมรับและอ้างว่าที่คบกับหญิงอื่นก็เพราะหวังเงินจากผู้หญิงคนนั้น ตอนนี้สามีได้เงินมาต้องผ่อนรถกับให้เงินพ่อแม่ของเค้าก็หมดแล้ว จึงต้องพึ่งผู้หญิงคนนี้ แต่สามีแทบจะไม่ได้ส่งเงินมาเลี้ยงดูดิฉันและลูกเลย และสามีก็เพิ่งบอกว่ามีหนี้สินอีก เกี่ยวกับผ่อนของนู่นนี่ซึ่งผ่อนไว้ใช้เอง แล้วอย่างนี้ดิฉันจะฟ้องหย่าได้หรือไม่คะ โดยที่ค่าเลี้ยงดูอะไรไม่เอา ขอแค่ใบหย่า กับเซ็นต์เอกสารไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับลูกอีกเลย เนื่องจากก่อนหน้านี้กระทำการสิ่งใดไม่เคยนึกถึงลูกหรือพูดถึงอะไรเลย พอจะหย่า ดันบอกว่า เป็นห่วงลูก ขอคำปรึกษาด้วยนะคะ ขอบพระคุณมากคะ



ผู้ตั้งกระทู้ พิม :: วันที่ลงประกาศ 2013-03-01 17:47:35


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2943298)

เบื้องต้นหากอ้างเฉพาะหลักกฎหมายก็มีเหตุฟ้องหย่าได้ แต่เวลาพิสูจน์ต้องมีพยานหลักฐานหนักแน่นมากกว่านี้ เช่น สามีเป็นชู้กับหญิงอื่น หรือ สามีไม่อุปการะเลี้ยงดูครอบครัว เป็นต้น แต่จะขอให้ศาลมีคำพิพากษาว่า ห้ามมายุ่งเกี่ยวกับลูกอีกนั้นคงไม่ได้ เพราะนั่นเป็นความประสงค์ของคุณผู้เป็นมารดาไม่ใช่ความประสงค์ของบุตรผู้เยาว์ ในเรื่องนี้ศาลจะมุ่งไปที่ตัวผู้เยาว์เป็นหลักครับ น่าจะออกมาทำนองว่าให้บิดาสามารถไปพบบุตรได้ตลอดเวลาครับ

มาตรา 1516  เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้
(1) สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
...(6) สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควรหรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายลีนนท์0859604258 วันที่ตอบ 2013-03-09 10:50:24


ความคิดเห็นที่ 2 (2943315)

ในภาษาไทย มีคำว่า “ชู้” หมายถึง ชายที่มาเกี่ยวข้องกับเมียเขา คำว่า “ชู้” ของเราจะมาอย่างไรไม่รู้ แต่ก็ตรงกับ “ชู” ของอียิปต์ที่มาแย่งเมียเขาเหมือนกัน”  คำว่า “ชู้” พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้บทนิยามไว้ว่า “น. คู่รัก; ผู้ล่วงประเวณี; การล่วงประเวณี, ชายที่ร่วมประเวณีด้วยเมียเขา เรียกว่า เป็นชู้, หญิงที่ยังมีสามีอยู่แล้วร่วมประเวณีกับชายอื่น เรียกว่า มีชู้, เรียกชายหรือหญิงที่ใฝ่ในทางชู้สาวว่า เจ้าชู้”
          จากบทนิยามนี้ เราก็จะเห็นว่า คำว่า “เป็นชู้” กับ “มีชู้” ต่างกัน แต่ก็ยังมีผู้ใช้สับสนกันอยู่ ถ้าผู้ชายไปร่วมประเวณีด้วยภรรยาของชายอื่น เรียกว่า “เป็นชู้” เช่น ไปเป็นชู้กับเมียเขา แต่ถ้าหญิงที่มีสามีแล้ว และสามีก็ยังมีชีวิตอยู่ ไปร่วมประเวณีกับชายอื่น ไม่ว่าชายผู้นั้นจะมีภรรยาหรือไม่ก็ตาม ก็ถือว่า “มีชู้” ทั้งสิ้น ส่วนคำว่า “เจ้าชู้” นั้นใช้ได้ทั้งแก่ผู้หญิงและผู้ชาย

ผู้แสดงความคิดเห็น * วันที่ตอบ 2013-03-09 12:18:50



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล