เล่ายาวหน่อยนะครับ เรื่องมีว่า ย่ามีลูก5คน ลุงA ป้าB ลุงC ป้าD เเล้วก็พ่อ ย่ามีที่ดินเยอะมาก เเต่ย่าก็เเบ่งให้ลูกทุกคนเกือบเท่าๆกัน มีที่ดินผืนใหญ่ 2 เเปลงที่มีปัญหา เเปลง1ย่าให้ลุงAกับลุงC คนละครึ่ง เเต่ไม่สามารถเเบ่งเเยกได้ในตอนนั้นเพราะลุงC ได้เอาโฉนดไปจำนองธนาคารโดยย่ายินยอม ต่อมาย่าเสีย ลุงCไปยื่นขอรับมกดกเป็นของตนเเต่เพียงผู้เดียว โดยเเลกกับที่ผืนเล็กไม่กี่ตรว. ลุงAยอมเเต่ก็ไม่เคยคุยกับลุงCอีกเลย(ลุงAให้เหตุผลว่าคนโกงพี่โกงน้องยุ่งด้วยมีเเต่เสียกับเสีย)ที่ดินเเปลง2 ย่าให้ป้าCกับพ่อเเบ่งคนละครึ่ง ทำรางวัตรเสร็จยังไม่ได้โอนย่าเสีย ป้าCไปยื่นรับมรดกส่วนที่เป็นของตัวเอง เป็นชื่อป้าC เรียบร้อย ส่วนที่เป็นของพ่อ ป้าCขอยื่นเป็นผู้จัดการกองมรดก พ่อไม่ได้คัดค้าน(มัวเเต่เมา เล่นการพนันติดหญิง) หลังจากย่าเสีย พ่อยิ่งทำตัวเลวมากขึ้น(ปู่เสียตั้งเเต่ตอนพ่อยังเด็ก) พ่อบอกเเม่ว่าพ่อรับผิดชอบครอบครัวไม่ไหวขอเลิกกับเเม่ ซึ่งอันที่จริงพ่อก็ไม่เคยรับผิดชอบผมกับน้องอยู่เเล้วเเถมเเม่ยังต้องรับผิดชอบพ่อด้วยซ้ำไม่พอใจพ่อก็ทุบตีจนเเม่ต้องเข้าโรงพยาบาลหลายครั้ง เเม่จึงตัดสินใจพาผมกับน้อง ออกจากบ้าน เเล้วก้อไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพ่ออีกเลย ต่อมาคุณยาย(น้องสาวของย่าไม่มีลูก รับป้าDไปเป็นลูกบุญธรรมป้าDได้มรดกจากย่าน้อยมาก ย่าให้เหตุผลว่าให้คุณยายไปเยอะเเล้ว)รับผมไปอยู่ด้วย ผมบอกเเม่ว่าผมจะไปอยู่กับคุณยาย เเม่ก็ยอม ต่อมาพ่อมีภรรยาใหม่จดทะเบียนสมรส (เเม่ผมไม่ได้จดเเต่ย่าสู่ขอเเต่งานถูกต้องตามประเพณี) มีลูกสาวด้วยกัน1คนเเล้วก็หย่าขาดจากกัน หลังจากนั้น ป้าDให้ผมไปรับเเม่กับน้องมาอยู่ด้วยก่อนหน้านี้ป้าDบอกว่า พ่อเเบ่งขายที่ดินเเปลง2ให้ป้าได้โอนเงินให้พ่อ1ล้าน ให้เเม่1ล้าน เเล้วก็กันส่วนหนึ่งส่งเป็นรายเดือนให้น้องลูกเเม่เลี้ยง เงิน1ล้านพ่อใช้หมดไปกับการกินเที่ยวเล่นการพนันไม่ถึงเดือนเงินหมด เเม่พาน้องมา เเต่อยู่บ้านคนละหลังกับพ่อ(เเม่เลิกกับพ่อ ก็กลับไปเรียนต่อทำงานเลี้ยงน้องส่งเงินให้ผมเสมอ เเม่ไม่มีครอบครัวใหม่) เพราะพ่อมักจะเมาเเล้วอาละวาด บางครั้งก้อบอกว่าเเม่เลี้ยงที่เลิกไปเเล้วจะมาฆ่าพ่อ (เเม่เลี้ยงนิสสัยเหมือนพ่อเมาเล่นการพนันเที่ยวเก่งมีเรื่องทุบตีสาดน้ำกรดใส่พ่อ เลิกกับพ่อเพราะพี่ๆของพ่อจ้างให้เลิกโดยให้เงินไปเยอะพอควร) เงิน1ล้านของเเม่ เเม่ซื้อรถให้ผม เเล้วก็เปิดร้านคอมให้ ผมเรียนด้วยทำงานด้วย ร้านคอมลูกค้าเยอะ รายได้พอเลี้ยงตัวมีเหลือเก็บนิดหน่อย เพราะผมต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในส่วนที่เป็นของพ่อด้วย พ่อไม่มีรายได้อะไร ที่ดินเเปลง2ยังไม่ได้โอนเป็นชื่อพ่อ พ่อให้เขาเช่าระยะยาวค่าเช่าถูกมาก เป็นที่ดินมีบ้านเล็กๆ1หลัง เมื่อก่อนเเม่เปิดเป็นร้านขายของ โดยผู้เช่าทำสัญญาสร้างตึกเเถวเพื่อให้เช่าต่อหลังจากหมดสัญญาตึกเเถวก็จะเป็นของพ่อตอนสัญญาหมดเเม่เลี้ยงได้ไปสัญญาว่าจะต่อสัญญาให้เเล้วรับเงินค่าเช่าล่วงหน้าไปส่วนหนึ่ง พ่อโกรธ เลยมอบอำนาจให้ลุงC เป็นผู้ดูเเล ปี50 หลังจากลุงC เข้าไปดูเเลพ่อก็ไม่ได้เงินค่าเช่าอีกเลย ลุงให้เหตุผลกับพ่อว่าค่าเช่าถูกกว่าที่ควรจะเป็น ลุงจึงเเจ้งความข้อหาบุกรุกที่ดินกับผู้เช่าโดยให้ป้าฺBซึ่งเป็นผู้จัดการกองมรดกมอบอำนาจให้ลุงCเป็นผู้รับอำนาจในการฟ้องร้องเเทน ศาลชั้นต้นตัดสินให้ลุงชนะคดี เพราะพ่อไม่สิทธิในการที่จะเอาที่ดินในกองมรดกไปให้ผู้อื่นเช่า อันที่จริงที่ดินทั้งผืนที่เป็นกองมรดกเป็นส่วนของพ่อเเต่เพียงผู้เดียว เเต่ลุงได้ชี้เเจงว่าพ่อได้รับที่ดินส่วนที่เป็นของพ่อเเล้วขายให้ป้าDไปเเล้ว พ่อจึงไม่มีสิทธิในที่ดินผืนนี้อีก ตอนนี้ที่ดินส่วนที่เหลืออยู่ในระหว่างฏีกา ป้าB สัญญาว่า หลังจากหมดสัญญาเช่าในปี57 ป้าBจะโอนที่ดินผืนนี้ให้ผมกับน้องๆ ผมงงสัญญาเช่า ป้าB บอกว่าลุงCได้ทำสัญญาเช่าฉบับใหม่โดยให้ผู้เช่าเเต่ละรายมาทำสัญญาเช่าโดยตรงกับลุง ไม่ใช่เช่าช่วงต่อจากคนที่เช่ากับพ่อเเต่เดิม นั่นหมายถึงค่าเช่าเเต่ละรายเท่าไหร่กัน ถามป้าBๆ บอกไม่ใช่ความลับอะไร ให้ไปถามลุงCๆ ตอบว่าไม่ใช่เรื่องของผมอย่ามายุ่ง เเต่พ่อไปขอเงินค่าเช่าลุงก็ไม่ให้เหมือนกัน

ประเด็นคือ ผมอยากให้พ่อได้รับค่าเช่าสว่นนี้พ่อจะได้มีรายได้พอเลี้ยงตัวเองได้ เเต่ลุงบอกเงินค่าเช่าใช้ไม่ได้ถ้าไม่จบคดี งั้นสัญญาเช่าใหม่หมดสัญญาปี57  มีทำไม ทำสัญญาเช่าใหม่เเล้วทำไมต้องฟ้องผู้เช่าข้อหาบุกรุก คดีทำไมยืดเเยื้อมาตั้งเเต่ปี50ถึงจุบันคดียังไม่จบ เเต่ที่ทราบ ลุงCซึงเป็นเจ้าของรีสอร์ตรายได้ไม่เคยพอจ่ายพนักงาน ซื้ออาเล่คันละล้านกว่ามาขับ ไม่รวมรถคันอื่นๆ เเล้วก็สร้างโรงเเรมเพิ่ม มาอีก ค่าเช่าน้อยนิดที่พ่อเคยได้ปีละ2ล้านกว่าๆ ตอนนี้ค่าเช่าเท่าไหร่กัน หลังจากหมดสัญญาฉบับเเรกที่ทำกับพ่อ มันไม่ใช่ที่ดินที่มีบ้านหลังน้อย1หลัง เเต่เป็นตึกเเถว10กว่าห้อง+บังกะโลอีก15หลัง หาทางออกให้ผมหน่อย ผมอยากได้ที่ดินผืนนี้คืนจะคุยกับลุงCยังไง ให้ลุงๆป้าๆคนอื่นคุย ไม่มีใครกล้าคุยป้าBไปคุยโดนไล่ตะเพิดกลับมา บอกให้ป้าBโอน ป้าBก้อไม่กล้าโอนบอกรอหมดสัญญา เเต่ลุงCมีทีท่าว่าหมดสัญญา จะต่อสัญญาเช่าใหม่อีกรอบ เอิ้กๆ เนื้อเข้าปากเสือไฉนเลยเสือจะคายออกมาง่ายๆ ยิ่งเป็นเสือที่หิวโซด้วยเเล้ว ตอนนี้ผมอายุ23 กำลังศึกษาป.ตรี มีเเม่ น้อง พ่อ ต้องรับผิดชอบ มีรายได้มาจาร้านเกมส์ เเล้วก้อค่าเช่าอีกนิดหน่อยจากที่ดินส่วนที่เป็นบ้านที่ย่าให้ไว้ ลุงCคงไม่ถึงกับเอาที่ดินเป็นของตัวเองเพราะเป็นชื่อป้าB เป็นผู้จัดการมรดก ป้าBคงไม่ยอมโอนให้ลุงCง่ายๆ ส่วนป้าD ไม่กล้าคุยเพราะลุงCบอกว่า ได้ไปเเล้วนี่จะมายุ่งอะไรอีก คุณยายก็ไม่กล้าขัดลุงC เเน่เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกัน(ที่บนเขา30กว่าไร่ ที่เกาะเฮ50ไร่ ลุงกับยายเเอบไปเเบ่งกัน2คนเรียบร้อยโรงเรียนเสือโซ) ป้าB กับลุงC ตอนนี้ทำอาคารพานิชย์ร่วมกัน คงไม่มีใครงัดข้อใคร ลุงA ตัดไปได้เลยเพราะลุงA บอกว่าลุงยังเอาตัวไม่รอด ส่วนพ่อผมตอนนี้ลุงขออำนาจศาลสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสมารถ(เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง มีอาการจิตเวชร่วมด้วย ชักบ่อยๆ) ที่ดินตอนยังไม่พัฒนามีคนขอซื้อ80+ล้าน เเต่ย่าไม่ขายผ่านมา20ปี ราคาจะเท่าหนอ ผมอยากคุยประณีประณอมกับลุง คุยเเบบใหนดีครับ หรือต้องทำอย่างไรครับ เเนะนำผมหน่อยครับ