
ขรก.บำนาญ ต้องโทษ | |
เรียนถามผู้รู้ และท่านนักกฏหมายที่เคารพครับ ขรก.บำนาญ รับบำนาญตั้งแต่ปี 2549 และเมื่อ ต.ค.2550 ศาลสั่งจำคุก เงินบำนาญถูกระงับ พ.ย.2550 กระบวนการอุทธรณ์ และฎีกา สิ้นสุด เม.ย.2553 ลดโทษจำคุก 6 ปี 6 เดือน สืบเนื่องจาก พรบ.บำเหน็จบำนาญ ฉบับแก้ไข 2551 ยกเลิกมาตรา 52 ให้ ขรก.บำนาญ มีสิทธิรับบำนาญได้แม้ในกรณีศาลสั่งจำคุกหรือล้มละลาย ประกอบกับ พรบ.ล้างมนทิล 2550 ขณะนี้พ้นโทษ มีใบบริสุทธิ์ ลงวันที่ 31 ส.ค.2556 กรณีนี้ (กระบวนการศาลชั้นต้นสั่งมีโทษจำคุก ต.ค.2550 และกระบวนการศาลฎีกามีคำสั่งสิ้นสุด เม.ย.2553) ด้วยหากตีความตามคำสั่งศาลฎีกา คือคำสั่งสิ้นสุดนั่นคือเข้ากับ พรบ.บำเหน็จบำนาญ แต่หากตีความตามศาลชั้นต้น คือ ก่อน ธ.ค.2550 จะเข้ากับ พรบ.บำเหน็จบำนาญ 2551 ทั้งนี้ ขรก.ดังกล่าวข้างต้น สามารถรับเงินบำนาญหรือไม่ครับ | |
ผู้ตั้งกระทู้ โย :: วันที่ลงประกาศ 2017-10-08 09:26:36 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (4085484) | |
ในทางกฎหมายมีหลักอยู่ว่า คำพิพากษาจะต้องผูกพันคู่ความ รวมทั้งคำพิพากษาของศาลชั้นต้นด้วย จนกว่าจะถูกศาลสูงกว่าพิพากษาแก้หรือกลับผมมีความเห็นว่า ขณะศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำคุกในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2550 จึงต้องบังคับตาม พ.ร.บ. บำเหน็จบำนาญข้าราชการ ตามกฎหมายที่ใช้ในขณะนั้นแม้คดีจะถึงที่สุดโดยคำพิพากษาศาลฎีกาเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2553 ก็ตาม ส่วนเรื่อง พ.ร.บ. ล้างมลทิน ปี พ.ศ. 2550 ไม่มีผลใด ๆ เนื่องจากพ้นโทษปี พ.ศ. 2556 (ขอเป็นความเห็นนะครับ แต่ขอเป็นกำลังใจให้ครับ) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร. 0859604258 วันที่ตอบ 2017-10-31 06:52:13 |
[1] |