ReadyPlanet.com
dot
รวมกฎหมายและฎีกา
dot
bulletกฎหมายทั่วไป
bulletคดีครอบครัว
bulletคำพิพากษาคดีอาญา
bulletที่ตั้งสำนักงาน
bulletซื้อขายเช่าซื้อขายฝาก
bulletครอบครองปรปรปักษ์
bulletผู้จัดการมรดก
bulletกฎหมายแรงงาน
bulletทรัพย์สินกรรมนสิทธิ์
bulletหลักฐานการกู้ยืมเงิน
bulletสัญญาตัวแทน
bulletซื้อขายที่ดิน
bulletสัญญาเช่า
bulletลาภมิควรได้
bulletผู้คำประกัน
bulletคดีล้มละลาย
bulletพ.ร.บ. ทนายความ




เพื่อยังความเสียหายหรือความเดือดร้อนให้สิ้นไป

ทนายความบริษัทสำนักงานพีศิริ ทนายความ จำกัด  

ภาพจากซ้ายไปขวา ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ, ทนายความภคพล มหิทธาอภิญญา, ทนายความเอกชัย อาชาโชติธรรม, ทนายความอภิวัฒน์ สุวรรณ

-ยินดีให้คำปรึกษากฎหมายโทร.  085-9604258 (ลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ)

-ปรึกษากฎหมายผ่านทางemail:  leenont0859604258@yahoo.co.th

-ปรึกษากฎหมายผ่านทางไลน์ ไอดีไลน์  (5) ID line  :

         (1) leenont หรือ (2) @leenont หรือ (3)  peesirilaw  หรือ (4) @peesirilaw   (5)   @leenont1 

เพื่อยังความเสียหายหรือความเดือดร้อนให้สิ้นไป

โจทก์เช่าที่ดินจำเลยทั้งสามต่อเติมหลังคาตึกแถวดังกล่าวยื่นล้ำเข้ามาใน ที่ดินที่เช่าอันเป็นการรบกวนสิทธิการครอบครองที่ดินของโจทก์โจทก์จึงมี สิทธิปฏิบัติการเพื่อยังความเสียหายหรือความเดือดร้อนให้สิ้นไปโดยฟ้องจำเลย ให้รื้อถอนหลังคาที่ต่อเติมออกมาจากตึกแถวของจำเลยซึ่งกีดขวางการใช้ ประโยชน์จากที่ดินดังกล่าว

  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 877/2546

สัญญาเช่าที่ดินระหว่างโจทก์กับเทศบาลระบุให้โจทก์ใช้ที่ดินที่เช่าเป็น สถานที่จอดรถสำหรับกิจการโรงแรมของโจทก์ ดังนั้นการที่จำเลยติดตั้งหลังคากันสาดรุกล้ำเข้ามาในที่ดินที่โจทก์เช่าทำ ให้โจทก์ไม่สามารถจะใช้หรือได้รับประโยชน์จากที่ดินได้โดยสะดวกเป็นเหตุให้ โจทก์ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายในการใช้ ที่ดิน แม้โจทก์เป็นเพียงผู้เช่าที่ดินจากเทศบาลแต่การเช่าที่ดินก็เพื่อใช้ ประโยชน์ในกิจการโรงแรมของโจทก์ เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเดือดร้อน รำคาญเป็นพิเศษย่อมมีอำนาจฟ้องให้ขจัดความเดือดร้อนนั้นได้ตามประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ มาตรา 421 และมาตรา 1337 แม้ว่าจำเลยติดตั้งหลังคาตึกแถวก่อนที่โจทก์จะทำสัญญาเช่าที่ดินจากเทศบาลก็ หาเป็นเหตุให้โจทก์ต้องเสียสิทธิดังกล่าวไปไม่ โจทก์จึงมีสิทธิปฏิบัติการเพื่อยังความเสียหายหรือความเดือดร้อนให้สิ้นไป โดยฟ้องจำเลยให้รื้อถอนหลังคาที่ต่อเติมออกมาจากตึกแถวของจำเลยซึ่งกีดขวาง การใช้ประโยชน์จากที่ดินดังกล่าว

            โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2530 โจทก์เช่าที่ดินโฉนดเลขที่ 15917 เนื้อที่87.5 ตารางวา ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของเทศบาลเมืองโพธาราม จังหวัดราชบุรี มีกำหนด 20 ปีจำเลยทั้งสามเป็นเจ้าของตึกแถว 2 ห้อง เลขที่ 70 และเลขที่ 72 ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 15887 และเลขที่ 15888 เมื่อปี 2535 ถึงปี 2536 จำเลยทั้งสามต่อเติมหลังคาตึกแถวดังกล่าวยื่นล้ำเข้ามาในที่ดินของเทศบาล เมืองโพธาราม มีความยาว 8 เมตร กว้าง 3 เมตร อันเป็นการรบกวนสิทธิการครอบครองที่ดินของโจทก์ ทำให้โจทก์ใช้ประโยชน์ในที่ดินที่เช่าไม่ได้เต็มเนื้อที่ ผู้ใช้บริการโรงแรมที่มีรถบรรทุกหกล้อขึ้นไป ไม่สามารถนำรถเข้ามาจอดได้เพราะติดหลังคาตึกแถวของจำเลยทั้งสาม ผู้มาพักโรงแรมจึงลดลงทำให้โจทก์ขาดรายได้เดือนละ 3,000 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองรื้อถอนหลังคากันสาดที่ต่อเติมออกมาจากตึกแถวเลขที่ 70 และเลขที่ 72 ถนนทรงพล ตำบลโพธาราม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 15887 และเลขที่ 15888 ตำบลโพธาราม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ออกไปให้พ้นที่ดินโฉนดเลขที่ 15917 ตำบลโพธาราม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ให้จำเลยทั้งสามใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 3,000 บาท นับตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยทั้งสามจะรื้อถอนหลังคาออกไป

จำเลยทั้งสามให้การว่า จำเลยทั้งสามซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 15887 และเลขที่15888 พร้อมตึกแถวเลขที่ 70 และเลขที่ 72 จากนางกุหลาบ แซ่ตั้ง ภริยาโจทก์ ตั้งแต่ปี 2527 และติดตั้งหลังคาด้านหลังของตึกแถวใช้ประโยชน์ตลอดมาตั้งแต่ปี 2527 ก่อนที่โจทก์จะเช่าที่ดินจากเทศบาลเมืองโพธาราม ไม่ได้ต่อเติมในปี 2535 ถึงปี 2536โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ผู้ใช้บริการโรงแรมของโจทก์ไม่สามารถนำรถบรรทุกหกล้อเข้ามาจอดได้ เนื่องจากติดโครงเหล็กประตูของตลาดสดเทศบาลซึ่งอยู่ต่ำกว่าหลังคาตึกแถวของ จำเลยทั้งสาม จึงไม่ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ยกฟ้อง

            ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามรื้อถอนหลังคาที่ต่อเติมออกจากตึกแถว เลขที่ 70 และเลขที่ 72 ถนนทรงพล ตำบลโพธาราม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรีซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 15887 และเลขที่ 15888 ตำบลโพธาราม อำเภอโพธารามจังหวัดราชบุรี ให้ออกไปให้พ้นที่ดินโฉนดเลขที่ 15917 ตำบลโพธาราม อำเภอโพธารามจังหวัดราชบุรี คำขออื่นของโจทก์ให้ยก

            จำเลยทั้งสามอุทธรณ์คำสั่งและคำพิพากษา

             ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
            โจทก์ฎีกา 

             ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงที่คู่ความทั้งสองฝ่ายไม่โต้เถียงกันรับฟังเป็นยุติว่า เมื่อปี 2531 โจทก์เช่าที่ดินโฉนดเลขที่ 15917 ตำบลโพธาราม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เนื้อที่ 87.5 ตารางวา จากเทศบาลเมืองโพธาราม มีกำหนดระยะเวลา 20 ปี นับตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2531 ถึงวันที่ 7 กรกฎาคม 2551 ตามสำเนาโฉนดที่ดินและสำเนาหนังสือสัญญาเช่าที่ดินเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.3 ส่วนจำเลยทั้งสามเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 15887 และเลขที่ 15888 ตำบลโพธาราม อำเภอโพธารามจังหวัดราชบุรี และตึกแถวเลขที่ 70 และเลขที่ 72 ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินดังกล่าวตามสำเนาโฉนดที่ดินเอกสารหมาย ล.1 และ ล.2 โดยจำเลยทั้งสามได้ติดตั้งหลังคากันสาดด้านหลังตึกแถวรุกล้ำเข้ามาในที่ดิน ที่โจทก์เช่าไว้ โจทก์ต้องการใช้ที่ดินที่เช่าจากเทศบาลเมืองโพธารามบริเวณด้านหลังตึกแถวของ จำเลยทั้งสามเป็นที่จอดรถของผู้มาพักโรงแรมของโจทก์ จึงขอให้จำเลยทั้งสามรื้อถอนกันสาดดังกล่าวออกไป แต่จำเลยทั้งสามเพิกเฉยโจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายเรื่องอำนาจฟ้องเพียง ประเด็นเดียวว่า โจทก์มีสิทธิฟ้องให้จำเลยทั้งสามรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวที่รุกล้ำเข้า มาในที่ดินที่โจทก์เช่าจากเทศบาลเมืองโพธารามหรือไม่ เห็นว่า ตามหนังสือสัญญาเช่าที่ดินระหว่างโจทก์กับเทศบาลเมืองโพธารามตามเอกสารหมาย จ.2 ข้อ 3 ระบุให้โจทก์ใช้ที่ดินที่เช่าดังกล่าวเป็นสถานที่จอดรถสำหรับกิจการโรงแรม แสนสุขโฮเต็ลของโจทก์ ดังนั้น การที่จำเลยทั้งสามติดตั้งหลังคากันสาดรุกล้ำเข้ามาในที่ดินที่โจทก์เช่าใช้ ในกิจการโรงแรมของโจทก์เช่นนี้ ทำให้โจทก์ไม่สามารถจะใช้หรือได้รับประโยชน์จากที่ดินดังกล่าวได้โดยสะดวก เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายใน การใช้ที่ดินดังกล่าว แม้โจทก์เป็นเพียงผู้เช่าที่ดินจากเทศบาลเมืองโพธารามแต่การเช่าที่ดินดัง กล่าวก็เพื่อใช้ประโยชน์ในกิจการโรงแรมของโจทก์เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของ โรงแรมอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเดือดร้อนรำคาญเป็นพิเศษจากการกระทำ ของจำเลยทั้งสาม ย่อมมีอำนาจฟ้องให้ขจัดความเดือดร้อนนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 421 และมาตรา 1337 ทั้งนี้ แม้ว่าจำเลยทั้งสามติดตั้งหลังคาตึกแถวก่อนที่โจทก์จะทำสัญญาเช่าที่ดินดัง กล่าวจากเทศบาลเมืองโพธารามก็ไม่เป็นเหตุให้โจทก์ต้องเสียสิทธิดังกล่าวไป ไม่โจทก์จึงมีสิทธิปฏิบัติการเพื่อยังความเสียหายหรือความเดือดร้อนให้สิ้น ไป โดยฟ้องจำเลยทั้งสามให้รื้อถอนหลังคาที่ต่อเติมออกมาจากตึกแถวเลขที่ 70 และเลขที่ 72 ของจำเลยทั้งสามซึ่งกีดขวางการใช้ประโยชน์จากที่ดินโฉนดเลขที่ 15917 ดังกล่าวที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายกฟ้องโจทก์นั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น"


               พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

                     ( สดศรี สัตยธรรม - วิรัช ลิ้มวิชัย - มานะ ศุภวิริยกุล )
 

 

 




ทรัพย์สินกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์

เสียกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ถูกลุกล้ำ, อำเนาจฟ้องเพิกถอน
วิธีการแบ่งทรัพย์สินที่มีเจ้าของหลายคนร่วมกัน
ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้เป็นเจ้าของรวมกันมีส่วนเท่ากัน
คำว่า "สุจริต"คือเข้าใจว่าเป็นที่ดินของตนเอง
ปลูกสร้างโรงเรือนในที่ดินของผู้อื่นโดยไม่สุจริต
ใบเสร็จรับเงินภาษีบำรุงท้องที่-หลักฐานผู้ครอบครองที่ดิน
ความเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมาย
ความเสียหายเดือดร้อนเกินควร
ความเสียหายเดือดร้อนเกินกว่าที่ควรคิดหรือคาดหมาย
เจ้าของรวมจำหน่ายส่วนของตน | ความยินยอมจากภริยา
เพิกถอนนิติกรรมในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์รวม
ความเดือดร้อนเกินกว่าที่ควรคาดหมาย | เหตุอันควร
ใบจอง (น.ส. 2) แย่งการครอบครองได้หรือไม่?