ReadyPlanet.com
dot
รวมกฎหมายและฎีกา
dot
bulletกฎหมายทั่วไป
bulletคดีครอบครัว
bulletคำพิพากษาคดีอาญา
bulletที่ตั้งสำนักงาน
bulletซื้อขายเช่าซื้อขายฝาก
bulletครอบครองปรปรปักษ์
bulletผู้จัดการมรดก
bulletกฎหมายแรงงาน
bulletทรัพย์สินกรรมนสิทธิ์
bulletหลักฐานการกู้ยืมเงิน
bulletสัญญาตัวแทน
bulletซื้อขายที่ดิน
bulletสัญญาเช่า
bulletลาภมิควรได้
bulletผู้คำประกัน
bulletคดีล้มละลาย
bulletพ.ร.บ. ทนายความ




บันดาลโทสะหรือพยายามฆ่า

ทนายความโทร0859604258

ภาพจากซ้ายไปขวา ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ, ทนายความภคพล มหิทธาอภิญญา, ทนายความเอกชัย อาชาโชติธรรม, ทนายความอภิวัฒน์ สุวรรณ

-ปรึกษากฎหมาย ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร.085-9604258

-ติดต่อทางอีเมล  : leenont0859604258@yahoo.co.th

-ปรึกษากฎหมายผ่านทางไลน์ ไอดีไลน์  (5) ID line  :

         (1) @leenont หรือ (2) @leenont1 หรือ (3)  @peesirilaw  หรือ (4) peesirilaw   (5)   leenont                  

 

การที่จำเลยใช้ไม้เนื้อแข็งและมีขนาดโตพอสมควร เลือกตีที่บริเวณศีรษะอันเป็นอวัยวะสำคัญจนกะโหลกศีรษะแตก มีเลือดคั่งในสมองแสดงว่าจำเลยตีผู้เสียหายอย่างแรง จำเลยย่อมเล็งเห็นผลแห่งการกระทำของตนว่าเป็นเหตุให้ผู้เสียหายถึงแก่ความ ตายได้ ทั้งตามความเห็นแพทย์ยังได้ความว่าหากไม่รักษาทันท่วงทีผู้เสียหายอาจถึงแก่ ความตายได้ ดังนั้น พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

จำเลยกระทำความผิดด้วยเหตุบันดาลโทสะหรือไม่ ก่อนเกิดเหตุจำเลยเร่งให้ผู้ร่วมงานคนหนึ่งและผู้เสียหายทำงานให้เร็ว แล้วโต้เถียงกับผู้เสียหาย จำเลยเป็นฝ่ายท้าทายผู้เสียหายเพียงฝ่ายเดียวให้ขึ้นมาชกกันบนคันคลอง โดยผู้เสียหายมิได้รับคำท้าของจำเลยและไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้กระทำการใด ๆ อันเป็นการคุกคามต่อความปลอดภัยในร่างกายของจำเลย ผู้เสียหายเพียงแต่พูดว่า อยากลุ้นกับรุ่นพ่อ ซึ่งคำพูดดังกล่าวมีความหมายว่าอยากต่อยกับรุ่นพ่อ ซึ่งการพูดจาของผู้เสียหายดังกล่าวเป็นเพียงการยั่วโทสะจำเลยเท่านั้น แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอยู่บ้าง พฤติการณ์ของผู้เสียหายที่แสดงต่อจำเลยยังถือไม่ได้ว่าได้กระทำการข่มเหง จำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยหยิบไม้เดินลงไปตีศีรษะผู้เสียหายในขณะนั้นจึงมิใช่เป็นการกระทำ ความผิดด้วยเหตุบันดาลโทสะ 

           คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2549

จำเลยใช้ไม้สนซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็ง มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 70 เซนติเมตร ซึ่งมีขนาดโตพอควร ตีศีรษะผู้เสียหาย 1 ครั้ง โดยเลือกตีที่ศีรษะอันเป็นอวัยวะสำคัญ การที่กะโหลกศีรษะแตก มีเลือดคั่งในสมองจากการถูกตี แสดงว่าจำเลยตีอย่างแรง จำเลยย่อมเล็งเห็นผลแห่งการกระทำของตนว่าอาจเป็นเหตุให้ผู้เสียหายถึงแก่ ความตายได้ ทั้งตามความเห็นของแพทย์ผู้รักษาหากแพทย์ไม่ผ่าตัดสมองรักษาให้ทันท่วงที ผู้เสียหายอาจถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า

จำเลยกับผู้เสียหายรับจ้างทำงานก่อสร้างสะพานด้วยกัน ก่อนเกิดเหตุจำเลยเร่งให้เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งและผู้เสียหายทำงาน แล้วโต้เถียงกับผู้เสียหาย จำเลยท้าทายผู้เสียหายให้ขึ้นมาชกกันบนคันคลอง แต่ผู้เสียหายยังคงนั่งก้มหน้าทำงานและพูดว่า จะลุ้นกับรุ่นพ่อ ซึ่งหมายความว่าอยากจะชกต่อยกับจำเลยที่มีอายุรุ่นเดียวกับพ่อของผู้เสียหาย แม้คำพูดเช่นนี้ของผู้เสียหายจะไม่เหมาะสมบ้าง แต่ก็เป็นเพียงการยั่วโทสะจำเลยเท่านั้น การที่จำเลยหยิบไม้เดินลงไปตีศีรษะผู้เสียหายในขณะนั้นจึงไม่ใช่การกระทำ ความผิดโดยบันดาลโทสะ

        โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 80, 288
        จำเลยให้การปฏิเสธ

        ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80 จำคุก 10 ปี คำรับของจำเลยในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ตาม ป.อ. มาตรา 78 ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน
        จำเลยอุทธรณ์

        ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน
        จำเลยฎีกา

        ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยพยายามฆ่าผู้เสียหายหรือไม่ การที่จำเลยใช้ไม้สนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 70 เซนติเมตร ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็งและมีขนาดโตพอสมควร เลือกตีที่บริเวณศีรษะอันเป็นอวัยวะสำคัญจนกะโหลกศีรษะแตก มีเลือดคั่งในสมองแสดงว่าจำเลยตีผู้เสียหายอย่างแรง จำเลยย่อมเล็งเห็นผลแห่งการกระทำของตนว่าเป็นเหตุให้ผู้เสียหายถึงแก่ความ ตายได้ ทั้งตามความเห็นแพทย์ยังได้ความว่าหากไม่รักษาทันท่วงทีผู้เสียหายอาจถึงแก่ ความตายได้ ดังนั้น พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายเนื่องจากได้รับการรักษาทันท่วงที การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยกระทำความผิดด้วยเหตุบันดาลโทสะหรือไม่ วันเกิดเหตุผู้เสียหายจำเลยกับพวกประมาณ 10 คน ไปรับจ้างนายบุญสมรับเหมาสร้างสะพาน ก่อนเกิดเหตุจำเลยเร่งให้ผู้ร่วมงานคนหนึ่งและผู้เสียหายทำงานให้เร็ว แล้วโต้เถียงกับผู้เสียหาย จำเลยเป็นฝ่ายท้าทายผู้เสียหายเพียงฝ่ายเดียวให้ขึ้นมาชกกันบนคันคลอง โดยผู้เสียหายมิได้รับคำท้าของจำเลยและไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้กระทำการใด ๆ อันเป็นการคุกคามต่อความปลอดภัยในร่างกายของจำเลย ผู้เสียหายเพียงแต่พูดว่า อยากลุ้นกับรุ่นพ่อ ซึ่งคำพูดดังกล่าวมีความหมายว่าอยากต่อยกับรุ่นพ่อ ซึ่งการพูดจาของผู้เสียหายดังกล่าวเป็นเพียงการยั่วโทสะจำเลยเท่านั้น แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอยู่บ้าง พฤติการณ์ของผู้เสียหายที่แสดงต่อจำเลยยังถือไม่ได้ว่าได้กระทำการข่มเหง จำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตาม ป.อ. มาตรา 72 การที่จำเลยหยิบไม้เดินลงไปตีศีรษะผู้เสียหายในขณะนั้นจึงมิใช่เป็นการกระทำ ความผิดด้วยเหตุบันดาลโทสะ

พิพากษายืน.
( ศุภชัย สมเจริญ - โนรี จันทร์ทร - ธนพจน์ อารยลักษณ์ )
ป.อ. มาตรา 59 วรรคสอง, 72, 80, 288
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 59 บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำ โดยเจตนาเว้นแต่จะได้กระทำความโดยประมาท ในกรณีที่กฎหมาย บัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท หรือเว้นแต่ในกรณี ที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่มี เจตนา

           กระทำโดยเจตนา ได้แก่กระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำและ ในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการ กระทำนั้น
              ถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริง อันเป็นองค์ประกอบของความผิดจะ ถือว่าผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำ นั้นมิได้

              กระทำโดยประมาท ได้แก่กระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา แต่ กระทำโดยปราศจากความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจัก ต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวัง เช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่
               การกระทำ ให้หมายความรวมถึงการให้เกิดผลอันหนึ่งอันใดขึ้น โดยงดเว้นการที่จักต้องกระทำเพื่อป้องกันผลนั้นด้วย

              มาตรา 72 ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุ อันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะ ลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใด ก็ได้
              มาตรา 80 ผู้ใดลงมือกระทำความผิดแต่กระทำไปไม่ตลอด หรือกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล ผู้นั้นพยายาม กระทำความผิด
ผู้ใดพยายามกระทำความผิด ผู้นั้นต้องระวางโทษสองใน สามส่วนของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
              มาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุก ตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี

 

 คดีของโจทก์ขาดอายุความการจัดการมรดก

จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้จัดการมรดกโอนที่ดินมรดกให้แก่จำเลยที่ 2 แต่เพียงผู้เดียวโดยไม่ได้รับความยินยอมจากทายาททุกคน เป็นการปฏิบัติผิดหน้าที่ผู้จัดการมรดกจึงเป็นคดีเกี่ยวกับการจัดการมรดก มิให้ทายาทฟ้องเกินกว่าห้าปี

คู่สมรสและการแบ่งมรดกของคู่สมรส เมื่อการสมรสเป็นโมฆะ

คู่สมรสเป็นทายาทโดยธรรมของคู่สมรสที่เสียชีวิต ส่วนแบ่งมรดกเป็นไปตามกฎหมาย ถ้าการสมรสเป็นโมฆะมีผลกับมรดกของคู่สมรสที่ตายอย่างไร? มีสิทธิรับมรดกหรือไม? บุตรที่เกิดมามีสิทธิรับมรดกของบิดาที่ตายหรือไม่?

 

 




คำพิพากษาคดีอาญา

รับผู้เยาว์จากโรงเรียนมีเพศสัมพันธ์ในรถยนต์จำคุก 14ปี
ทำบันทึกการยืมทรัพย์มอบให้ไปขายไม่เป็นยักยอกทรัพย์ โทร0859604258
ค่าตอบแทนการวิ่งเต้นการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้กำกับ-ตำรวจ
ความผิดฐานเป็น"ตัวการ" ร่วมกันกระทำความผิด-ผู้สนับสนุน
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราโดยใช้อาวุธ
เดินทางมาด้วยกัน ไม่จำเป็นว่าจะต้องกระทำความผิดร่วมกันเสมอไป
ครูอัตราจ้างพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีจำคุก 32 ปี
ผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังแต่ไม่ผิดฐานค้ามนุษย์
นำหนังสือมอบอำนาจเปล่าเซ็นชื่อไปกรอกข้อความโอนขายที่ดิน
โกรธไม่ยอมคืนดีด้วยใส่ยาเบื่อหนูในโอ่งน้ำไม่ตายเป็นพยายามฆ่า
สำนักงานปฏิรูปฯเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก. 4-01
การสมรสตามหลักกฎหมายอิสลาม
นำอาวุธติดตัว, ระหว่างเดินทางย่อมคิดทบทวน
เช็คประกันหนี้ผู้ออกเช็คไม่ติดคุก
ลงลายมือชื่อรับรองคนต่างด้าว
อ้างเหตุป้องกันตัวไม่ได้
ทำร้ายร่างกายกับการป้องกันตัว
พรากเด็กหญิงไปเสียจากผู้ดูแลเพื่ออนาจาร
คดีรอการกำหนดโทษจำเลยมิใช่ผู้ต้องโทษตาม-พรบ.ล้างมลทิน
ให้การรับสารภาพรอการลงโทษจำคุก
ลักทรัพย์ที่เป็นของผู้มีอาชีพกสิกรรมโทษหนักขึ้น
คำขอในส่วนแพ่งเนื่องความผิดอาญา
วิธีการสำหรับเด็กและเยาวชนต้องห้ามฎีกา
เบิกความอันเป็นเท็จในศาล
ลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ
ความผิดนอกราชอาณาจักร
คำว่า-วิชาชีพ-ในคดีอาญา
บันดาลโทสะต้องถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง
เบิกความอันเป็นเท็จ
ศาลฎีกาไม่อาจกำหนดโทษจำเลยเพิ่มเติมได้
ลักบัตรเครดิตและใช้เอกสารปลอม
สเปรย์พริกไทยไม่เป็นอาวุธโดยสภาพ
เป็นการใช้อำนาจของครูต่อผู้เสียหายซึ่งเป็นศิษย์