
ภริยาร้องเรียนผู้บังคับบัญชา
-ปรึกษากฎหมาย ทนายความ นายลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร.085-9604258 -ติดต่อทางอีเมล : leenont0859604258@yahoo.co.th -ปรึกษากฎหมายผ่านทางไลน์ ไอดีไลน์ (5) ID line : (1) @leenont หรือ (2) @leenont1 หรือ (3) @peesirilaw หรือ (4) peesirilaw (5) leenont
ภริยาร้องเรียนผู้บังคับบัญชา การที่จำเลยมีหนังสือร้องเรียนโจทก์เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับหญิงอื่นดังกล่าวแล้วเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากับโจทก์อย่างร้ายแรงอันเป็นเหตุให้โจทก์ฟ้องหย่าจำเลยได้ตามกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า การที่จำเลยมีหนังสือร้องเรียนโจทก์ดังกล่าวก็เป็นเรื่องความประพฤติส่วนตัวของโจทก์ ซึ่งจำเลยในฐานะภริยาย่อมมีความรักและหึงหวงสามีสิทธิที่จะกระทำได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 994/2552 จำเลยมีหนังสือร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาของโจทก์และอาจารย์ผู้สอนโจทก์ในการศึกษาระดับปริญญาโทเรื่องความประพฤติส่วนตัวของโจทก์ ซึ่งจำเลยในฐานะภริยาย่อมมีความรักและหึงหวงสามีมีสิทธิที่จะกระทำได้ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาของโจทก์และอาจารย์ผู้สอนโจทก์ว่ากล่าวตักเตือนโจทก์ให้นึกถึงครอบครัว กรณีถือไม่ได้ว่าเป็นการประจานโจทก์ให้ต้องอับอายเสียชื่อเสียงอีกทั้งโจทก์มิได้ถูกดำเนินการทางวินัยร้ายแรง โจทก์จะอ้างเหตุดังกล่าวว่าเป็นกรณีจำเลยกระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรงไม่ได้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องหย่าจำเลย โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายมีบุตรด้วยกัน 2 คน คือเด็กชายคมกริช และเด็กหญิงวิภาดา เมื่อปี 2546 จำเลยประกอบกิจการร้านอาหาร โจทก์ตักเตือนและห้ามปรามแต่จำเลยไม่ฟัง ต่อมากิจการขาดทุน จำเลยได้นำทรัพย์สินต่างๆ ไปขายและโจทก์ต้องกู้เงินจากสหกรณ์มาชำระหนี้ เป็นเงิน 150,000 บาท ต่อมาโจทก์ทราบว่าจำเลยมีหนังสือร้องเรียนไปยังผู้บังคับบัญชาของโจทก์กล่าวหาว่าโจทก์คบหญิงอื่นโจทก์จึงถูกผู้บังคับบัญชาเรียกไปทำรายงานเสนอโจทก์และจำเลยมีปัญหาทะเลาะกันเป็นประจำทำให้โจทก์ได้รับความอับอายต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อน และบุคคลทั่วไป เมื่อประมาณเดือนมกราคม 2547 จำเลยได้ทิ้งร้างโจทก์หนีไปอาศัยอยู่ที่บ้านญาติที่รังสิตจนถึงขณะนี้เป็นเวลาเกินหนึ่งปีแล้ว ทั้งจำเลยพยายามแกล้งโจทก์โดยนำบุตรไปเลี้ยงดูที่บ้านที่รังสิต ต่อมาภายหลังจึงนำบุตรมาคืนแก่โจทก์ การกระทำของจำเลยเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามี หรือภริยากันอย่างร้ายแรง ขอให้พิพากษาให้โจทก์และจำเลยหย่าขาดจากกัน และให้โจทก์เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ทั้งสองแต่เพียงผู้เดียว จำเลยให้การว่า ในปี 2546 จำเลยประกอบกิจการร้านขายอาหาร โจทก์เห็นชอบด้วยจึงไปกู้เงินจากสหกรณ์ แต่โจทก์ไปคบหาหญิงอื่นฉันชู้สาว ให้จำเลยดูแลร้านอาหารเพียงผู้เดียว จำเลยขอร้องให้โจทก์เลิกยุ่งเกี่ยวกับหญิงอื่นแล้วมาช่วยจำเลยประกอบกิจการร้านอาหารดังกล่าว แต่โจทก์ไม่เชื่อฟัง จำเลยจึงทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้บังคับบัญชาของโจทก์เพื่อให้ตักเตือนโจทก์ โจทก์โกรธจำเลยจึงทิ้งจำเลยไปอยู่บ้านบิดามารดาของโจทก์ จำเลยต้องเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูบุตรทั้งสองเพียงลำพัง ต่อมาจำเลยไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรทั้งสองได้จึงให้โจทก์เป็นผู้เลี้ยงดู จำเลยไปทำงานกับพี่สาวที่จังหวัดปทุมธานีซึ่งโจทก์เห็นชอบ และจำเลยกลับไปเยี่ยมบุตรเดือนละสองครั้ง จำเลยไม่เคยทำให้โจทก์ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง จนเป็นปฏิปักษ์ต่อการอยู่กินฉันสามีภริยา โจทก์ไม่ได้เสื่อมเสียชื่อเสียงจำเลยไม่ได้ทิ้งร้างโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลย โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท ศาลอุทธรณ์ภาค 1 แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ พิพากษายืน จำเลยไม่ได้ยื่นคำแก้ฎีกา จึงไม่กำหนดค่าทนายความชั้นฎีกาให้ ( เสริมศักดิ์ ผลัดธุระ - นพวรรณ อินทรัมพรรย์ - สิริรัตน์ จันทรา )
ขอเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์แต่เพียงผู้เดียว ผู้ร้องมีเหตุขัดข้องเนื่องจากผู้ร้องได้ไปติดต่อสถานทูตสหรัฐอเมริกา เพื่อยื่นขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา (ขอวีซ่า) ให้กับบุตรผู้เยาว์ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ผู้ร้องจะต้องได้รับการแต่งตั้งจากศาล หรือ ให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งแต่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์แต่เพียงผู้เดียวเสียก่อน ผู้ร้องจึงจะสามารถพาบุตรผู้เยาว์ เดินทางออกนอกประเทศไทย และสามารถดำเนินการผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ผู้ร้องมาดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลนี้ เพื่อให้ศาลมีคำสั่งแต่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองแต่เพียงผู้เดียวของเด็กหญิง เอ บุตรผู้เยาว์ เสียก่อนจึงจะดำเนินการให้ได้
ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดก การขอเป็นผู้จัดการมรดก เมื่อเจ้ามรดกตาย ทรัพย์สมบัติของเจ้ามรดก ตกเป็นของทายาททันที และก็ยังรวมถึงหนี้สินด้วย ความรับผิดก็ตกทอดมาถึงทายาทเหมือนกัน แต่ก็รับผิดในฐานะเป็นทายาทเท่านั้นไม่ใช้ฐานะส่วนตัว แม้ว่ากองมรดกจะตกทอดแก่ทายาทแล้วก็ตาม ก็อาจมีปัญหาขัดข้องในการจัดสรรแบ่งปันมรดก หรือติดตามทวงถามหนี้สินที่บุคคลอื่นเป็นหนี้เจ้ามรดกอยู่ หรือจะไปโอนที่ดินเป็นของตน เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินไม่ดำเนินการให้ ลูกหนี้เจ้ามรดกไม่ยอมชำระหนี้ ธนาคารไม่ยอมให้เบิกเงินของผู้ตาย โดยต้องนำเอาคำสั่งศาลตั้งผู้นั้นเป็นผู้จัดการมรดกมาให้ดูมาแสดงเสียก่อนว่าผู้มาติดต่อนั้นศาลได้ตั้งเป็นผู้จัดการมรดกแล้วมิฉะนั้นไม่ดำเนินการให้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ทายาทจะต้องไปดำเนินการขอให้ศาลแต่งตั้งตนเองหรือบุคคลอื่นเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งก็จะเสียเวลาพอสมควรกว่าจะยื่นคำร้องขอและกว่าจะไต่สวนคำร้องและศาลมีคำสั่ง
|