
ทำร้ายร่างกายถ้าเป็นการร้ายแรงฟ้องหย่าได้
-ปรึกษากฎหมาย ทนายความ นายลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร.085-9604258 -ติดต่อทางอีเมล : leenont0859604258@yahoo.co.th -ปรึกษากฎหมายผ่านทางไลน์ ไอดีไลน์ (5) ID line : (1) @leenont หรือ (2) @leenont1 หรือ (3) @peesirilaw หรือ (4) peesirilaw (5) leenont ทำร้ายร่างกายถ้าเป็นการร้ายแรงฟ้องหย่าได้ สามีหรือภริยาทำร้ายหรือทรมานร่างกายหรือจิตใจหรือหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ถ้าเป็นการร้ายแรงอีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้ แต่การที่ศาลพิพากษาลงโทษปรับเพียง 1,000 บาท แสดงว่าบาดแผลที่โจทก์ได้รับไม่เป็นอันตรายร้ายแรงอันเป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516(3)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4402/2539
จำเลยใช้ไม้ตีทำร้ายร่างกายโจทก์เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายศาลพิพากษาลงโทษปรับจำเลย1,000บาทโจทก์มิได้นำแพทย์ผู้ตรวจบาดแผลมาเบิกความว่าโจทก์ได้รับบาดเจ็บมากน้อยเพียงใดการที่ศาลพิพากษาลงโทษปรับเพียง1,000บาทแสดงว่าบาดแผลที่โจทก์ได้รับไม่เป็นอันตรายร้ายแรงฟังไม่ได้ว่าจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์เป็นการร้ายแรงอันเป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1516(3) โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับจำเลยเป็นสามีภริยากันโดยจดทะเบียนสมรสถูกต้องตาม กฎหมาย เมื่อประมาณ ปี 2535 จำเลยจงใจละทิ้งร้างโจทก์ไปอยู่ที่อื่นจำเลยไม่เคยให้ ความช่วยเหลือเลี้ยงดูโจทก์ตามสมควร กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากัน อย่างร้ายแรงจำเลยใช้ไม้ตีทำร้ายร่างกายโจทก์เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับอันตรายแก่กาย โจทก์ไม่อาจอยู่ร่วมเป็นสามีภริยากับจำเลยได้ต่อไปขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนหย่ากับโจทก์หากไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาของ จำเลย จำเลย ให้การว่าจำเลยไม่ได้จงใจละทิ้งร้างโจทก์หากแต่โจทก์เป็นผู้ขับไล่จำเลยออกจาก บ้านพัก จำเลยมิได้ใช้ไม้ตีโจทก์บุตรชายของโจทก์ จำเลยเป็นผู้ตีเนื่องจากไม่ชอบ พฤติกรรมของโจทก์ที่มีภริยาใหม่และพาภริยาใหม่เข้ามาอยู่ในบ้านโจทก์ จำเลยให้การรับสารภาพว่าทำร้ายโจทก์เพื่อไม่ให้บุตรชายเสียประวัติขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้โจทก์จำเลยหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากันคำขออื่นนอกจาก นี้ให้ยก จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง โจทก์ ฎีกา ศาลฎีกา วินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาในชั้นฎีกาตาม ฎีกาของโจทก์ว่าจำเลยทำร้ายร่างกาย โจทก์ เป็นการร้ายแรงเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516(3) แล้วหรือไม่ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยทำร้ายโจทก์เพราะความหึงหวงที่โจทก์มีภริยาใหม่แสดงว่าจำเลยยังรักใคร่โจทก์อยู่ส่วนการทำร้ายนั้นได้ความจาก คำพิพากษาศาลแขวงนนทบุรี ว่าจำเลยใช้ไม้ตีทำร้ายร่างกายโจทก์เป็นเหตุให้ได้รับ อันตรายแก่กาย ศาลพิพากษาลงโทษ ปรับจำเลย 1,000 บาท โจทก์มิได้ นำแพทย์ ผู้ตรวจ บาดแผลมาเบิกความว่าโจทก์ได้รับบาดเจ็บมากน้อยเพียงใดการที่ศาลพิพากษาลงโทษ ปรับเพียง 1,000 บาท แสดงว่าบาดแผลที่โจทก์ได้รับไม่เป็นอันตรายร้ายแรงจึง ฟังไม่ได้ว่าจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์เป็นการร้ายแรงอันเป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516(3) พิพากษายืน มาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้
ขอเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์แต่เพียงผู้เดียว ผู้ร้องมีเหตุขัดข้องเนื่องจากผู้ร้องได้ไปติดต่อสถานทูตสหรัฐอเมริกา เพื่อยื่นขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา (ขอวีซ่า) ให้กับบุตรผู้เยาว์ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ผู้ร้องจะต้องได้รับการแต่งตั้งจากศาล หรือ ให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งแต่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์แต่เพียงผู้เดียวเสียก่อน ผู้ร้องจึงจะสามารถพาบุตรผู้เยาว์ เดินทางออกนอกประเทศไทย และสามารถดำเนินการผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ผู้ร้องมาดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลนี้ เพื่อให้ศาลมีคำสั่งแต่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองแต่เพียงผู้เดียวของเด็กหญิง เอ บุตรผู้เยาว์ เสียก่อนจึงจะดำเนินการให้ได้ ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดก การขอเป็นผู้จัดการมรดก เมื่อเจ้ามรดกตาย ทรัพย์สมบัติของเจ้ามรดก ตกเป็นของทายาททันที และก็ยังรวมถึงหนี้สินด้วย ความรับผิดก็ตกทอดมาถึงทายาทเหมือนกัน แต่ก็รับผิดในฐานะเป็นทายาทเท่านั้นไม่ใช้ฐานะส่วนตัว แม้ว่ากองมรดกจะตกทอดแก่ทายาทแล้วก็ตาม ก็อาจมีปัญหาขัดข้องในการจัดสรรแบ่งปันมรดก หรือติดตามทวงถามหนี้สินที่บุคคลอื่นเป็นหนี้เจ้ามรดกอยู่ หรือจะไปโอนที่ดินเป็นของตน เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินไม่ดำเนินการให้ ลูกหนี้เจ้ามรดกไม่ยอมชำระหนี้ ธนาคารไม่ยอมให้เบิกเงินของผู้ตาย โดยต้องนำเอาคำสั่งศาลตั้งผู้นั้นเป็นผู้จัดการมรดกมาให้ดูมาแสดงเสียก่อนว่าผู้มาติดต่อนั้นศาลได้ตั้งเป็นผู้จัดการมรดกแล้วมิฉะนั้นไม่ดำเนินการให้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ทายาทจะต้องไปดำเนินการขอให้ศาลแต่งตั้งตนเองหรือบุคคลอื่นเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งก็จะเสียเวลาพอสมควรกว่าจะยื่นคำร้องขอและกว่าจะไต่สวนคำร้องและศาลมีคำสั่ง
|